_________ พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ 4 "สนทนาธรรม"_________

เมื่อ2-3เดือนก่อนจขกท. ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนแปลกหน้าท่านหนึ่ง
ขณะที่นั่งดื่มกาแฟคนเดียวที่ม้าหิน ก็มีชายคนหนึ่งเดินถือกาแฟมานั่งโต๊ะใกล้ๆ
จิบกาแฟ หันมาทางเรา มองหน้าแล้วถามว่า
ชายแปลกหน้า : คุณนี่ถ้าจะเป็นทอมล่ะซี
เรา : (เงยหน้ามอง)ค่ะ
ชายแปลกหน้า : คุณรู้ไม๊ พวกกระเทยเนี่ย ทำกรรมอะไรถึงเกิดมาต้องเป็นกระเทย
เรา : (กวาดตามองหน้า เฉยๆ นึกไม่พอใจ แต่ปากพูด) ไม่ทราบค่ะ
ชายแปลกหน้า : กาเมสุมิจฉาจาร มันทรมานใจนะ เหมือนซ่อนชีวิตจิตใจในอีกร่าง
อยากมีอย่างแต่ไพล่ไปมีอีกอย่าง
เรา : (จิบกาแฟ มองหน้าเป็นคำถาม) แล้ว?
ชายแปลกหน้า : ต้องแก้ไขกรรมข้อนี้ ยึดมั่นผัวเดียวเมียเดียว (จิบกาแฟ ทำหน้านึก)
เมื่อหลายปีก่อน ผมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ คอหัก ผมคิดว่าผมคงจะต้องตายในครั้งนั้น
มันหมดความรู้สึกวูบไป ไม่เจ็บไม่ปวด แต่สติผมยังดีอยู่ ช่วงนั้นตาผมลืมอยู่
ทีแรกก็สว่าง ต่อมามันเริ่มมืดไปหมด
เรา : (เริ่มสนใจสิ่งที่เค้าพูด เท้าคางฟังเงียบๆ)
ชายแปลกหน้า :(หันมามองหน้าเราเต็มๆ .. แล้วเล่าต่อ)ผมรู้ว่าผมกำลังจะตาย
ทีแรกความกลัวความอาลัยอาวรณ์ก็ประดังประเดเข้ามา แต่สติรั้งให้ผมนึกขึ้นได้ว่า
คนใกล้ตายควรวางจิตให้ว่าง ผมเคยบวช เลยกำหนดจิตไว้ที่ลมหายใจ
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ในชั่วขณะที่จิตดิ่งลงไปในความมืดมิด ผมแลเห็น
แสงสว่างเท่าปลายเข็ม คุณรู้ไม๊ความตายเนี่ย มันมืดมนอนธกาลมาก หูไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
พอผมเห็นแสงสว่างนั้น ใจผมมาเป็นกอง ผมคุมสติกำหนดลมหายใจต่อไปอีก
แสงสว่างนั้นก็เริ่มแผ่ขยายเป็นวงกว้าง ผมฟื้น ผมรอดตาย มีสติรู้ตัวตลอด
ที่เขานำผมส่งโรงพยาบาล
เรา :แล้วทราบได้อย่างไรคะ หูไม่ได้ยินเสียง ตาไม่เห็น อะไรที่เกี่ยวกับตัวเอง
ความมืดมนอนธกาลนั่น
ชายแปลกหน้า :(ทำหน้านึก) คิดว่าร่างกายคงหมดสติไป แต่ จิตผมรับรู้อะไร
บางอย่างในอีกโลกหนึ่ง โลกระหว่างความเป็นความตาย ..ตอนผมรู้สึกตัว กับตอน
ที่เห็นนิมิตแสงสว่าง เมื่อกำหนดจิต .. แสงสว่างทางจิตมาก่อน จึงรู้สึกตัว
แต่สติระลึกรู้อยู่ตลอดในสองเหตุการณ์นั้น
จากคุณ
: ประดู่ลาย
- [ 19-11-2013 20.25.01 IP:110.77.232.181
] |
ความคิดเห็นที่ 1

เรา :(ถามเรียบๆ) มันเหมือนกับที่เราทำกัมมัฏฐานอะไรแบบนั้นรึเปล่าคะ ความรู้สึกตรงนั้น
ชายแปลกหน้า : มันต่างกัน ต่างที่ผมกำลังจะตาย หรือ ตายไปแล้วผมก็ไม่รู้ ความรู้สึกมันว่างเปล่า
ไร้ขอบเขต ความมืดมิดนี่มันกว้างใหญ่ไพศาลมาก ผมคิดว่า ช่วงนั้นจิตกระหวัดยึดสิ่งใดไว้
ผมน่าจะต้องไปตรงนั้น เข้าใจไม๊ ผมว่าผมตกไปอยู่ตรง ช่องทางระหว่างความเป็นความตายพอดี
เป็นที่ว่าจิตผมจะปรุงแต่งไปทางไหน แต่ผมกำหนดว่าง จังหวะดวงจะยังไม่ถึงที่ จึงได้ประสบการณ์นี้มาพูดคุย
เรา :(ดูเวลา ทางโน้นก็ด้วย) คงต้องไปแล้วล่ะค่ะ
ชายแปลกหน้า : ผมก็ด้วย
เรา : มีโอกาสแวะบอกเล่าพูดคุยอีกนะคะ ^^ ปฏิบัติอยู่แต่ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร
.......(แจ้งชื่อ) ค่ะ
ชายแปลกหน้า :ผม ..... (แจ้งชื่อ) แล้วคุยกันครับ ผมทานกาแฟที่นี่บ่อยๆ
เรา : ค่ะ แล้วคุยกัน (รีบอยู่ .. ลนๆ ..ไปอย่างเร็ว )
จากคุณ : ประดู่ลาย - [ 19-11-2013 20.41.06 IP:110.77.232.181 ]
|
|
ความคิดเห็นที่ 2

พบกันอีกครั้ง
เรา :สวัสดีค่ะพี่ ... (ทราบภายหลังว่า แกอายุ 57 ปี)
ชายแปลกหน้า : ครับ
เรา : เคยทำกัมมัฏฐานค่ะ ตอนนั้นอายุ 18 ปี ไม่ได้มีครูบาอาจารย์ที่ไหน แค่ใจอยากจะทำ
ชายแปลกหน้า : (พยักหน้า)อดีตเราใฝ่ใจเรื่องนี้ เป็นบารมีเก่า เหมือนการตกปลา
ทำไมบางคนสนบางคนไม่สนแม้แต่จะรับรู้รับฟัง .... เป็นความสนใจแต่เดิมของเรา
เรา :ค่ะ ...เล่าบ้าง ..เริ่มต้นที่เพ่งเปลวเทียน ปิดไฟอยู่ในที่มืด จำภาพนั้นจนติดตา
แต่ ภาวนาพุทโธ แล้วระลึกภาพติดตานั้น หลับตาก็เริ่มเห็นเด่นชัด หลับตาลืมตาดูอยู่อย่างนั้น
จำติดหูติดตาแต่แปลกนะคะ เวลาที่เราภาวนาพุทโธ สติเราจะไปอยู่ที่ลมหายใจทันที
แสงไฟจากเปลวเทียนก็ชัดทุกวันนี้ 40 กว่า พอกำหนดปุ๊บ เปลวเทียนนั้นจะปรากฎในมโนทวารทันที (อาการรับรู้ทางใจ)
ยังสับสนว่า พอภาวนาไป กลายเป็นหมอกควันอวลๆ กำหนดสติระลึกรู้สึกตัวระลึกลมหายใจ
เป็นอันว่า แสงไฟจากเปลวเทียนกลายเป็น หมอกควัน อยู่อารมณ์เดียว กายเริ่มขยายใหญ่ขึ้นๆ
มือเท้าเหมือนมันโตเท่าใบลาน ที่น่าตกใจคือ รู้สึกว่าร่างกายขยับจะลอยขึ้นไป
ทำให้สะดุ้งหลุดออกจากสมาธิ รีบลืมตาดูว่าตัวเองอยู่ที่เดิมรึเปล่า ...
ชายแปลกหน้า :เริ่มที่เตโชกสิณ ไพล่ไปอานาปานสติ เฉียดปฐมฌาณ น่าจะเป็นอานาปานสตินะครับ
เรา :ค่ะ .. จะทิ้งเปลวเทียนก็เสียดาย ติดตัวมา 20 กว่าปี แต่กลับเป็นอานาปานสติ ที่ส่งเราถึง
ปฐมฌาณ
ชายแปลกหน้า : ทุกวันนี้ยังได้ไม๊
เรา :ไม่เคยมาถึงตรงนี้อีกเลยค่ะ แค่เบาสบาย ปลอดโปร่ง พักหลังซ้ำร้าย พอปริยัติ รู้มาก
ฟุ้งตลบอบอวลไปเสียอีก
จากคุณ : ประดู่ลาย - [ 19-11-2013 21.16.07 IP:110.77.232.181 ]
|
|
ความคิดเห็นที่ 3
อ่าววววววว ไม่มีอีกเหรอคะ อยากรู้ต่อค่ะ
จากคุณ : Nangrai - [ 19-11-2013 21.41.35 IP:180.183.187.30 ]
|
|
ความคิดเห็นที่ 4

ชายแปลกหน้า : จะปริยัติตามแนวทางท่านไหน ก็ต้องมีหลักของตัวเอง และที่ควรจำเลยนะ
มันต้องเป็น เอกัคตา (อารมณ์เดียว)ตัวสำคัญคือสตินี่แหละ ต้องระลึกรู้อยู่ตลอด
ไปจับสองอย่างสามอย่าง มันจะไปได้เรื่องอะไร?
เรา :ก็ .. ปริยัติ (ศึกษาข้อธรรม)แล้วมันหลากหลายนี่คะ ไม่รู้จะฟังท่านไหน
ชายแปลกหน้า : จะหลากหลายท่านไหน ก็ต้องจำให้มั่น เอกัคตา น่ะ เขาแปลว่าอารมณ์เดียว
สตินี่ตัวสำคัญ มีไม๊ จับปั๊บมันเข้าไป จะเอาอะไรล่ะ ลมหายใจ เปลวเทียน ร่างกายหลักมันก็มีอยู่เท่านั้น
สมาธิคืออะไร ก็คือการจดจ่อมุ่งมั่นสนใจอยู่ในอารมณ์เดียวนั่นแหละ สนใจนั่นทีนี่ทีจะเรียกว่ามีสมาธิ
ได้อย่างไร ยึดหลักเดียวเท่านั้นคุณ
เรา : ค่ะ
ชายแปลกหน้า :รู้จัก สติปัฏฐาน 4 ไม๊
เรา : ค่ะ สติกำหนดรู้ใน กาย เวทนา จิต ธรรม เป็น เอกายนมรรค (เอกา หรือ เอก แปลว่า เดียว 1)
เอกายนมรรค คือทางสายเดียว ที่จะบรรลุธรรม
ชายแปลกหน้า :เป็นสมถะ หรือ วิปัสนา
เรา :วิปัสนาค่ะ
ชายแปลกหน้า :แล้วฝึกสมถะไปเพื่ออะไร?
เรา :เป็นบาทฐานของวิปัสนาค่ะ ต้องใช้กำลังของสมาธิพิจารณา ตามคำกล่าวที่ว่า
กำลังของสมาธิคือ ศีล กำลังของปัญญาคือสมาธิ วิปัสนาคือ การดำรงศีล สมาธิ พิจารณาให้เกิดปัญญา
ชายแปลกหน้า :ปัญญาที่ว่านี่ เหมือนกับปัญญาที่เราใช้ในการเล่าเรียนเขียนอ่านนี้หรือเปล่า
เรา : ไม่ทราบค่ะ
ชายแปลกหน้า :ต่างกันนะ ..ปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริงนี้ พูดยาก ผมยังไม่ถึงตรงนั้น มันเป็นปัญญาหยั่งรู้
ที่นอกเหนือมันสมองของมนุษย์จะหยั่งได้ สมองจะเรียนรู้จากสิ่งที่คุ้นเคย แต่ องค์ปัญญา หรือ ธาตุรู้
นี่มีอยู่กับตัวทุกคน รู้อยู่กับตัวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รู้ความจริงของธรรมชาติ ชีวิต เป็นความรู้
เหนือโลก ... ทำไมถึงเหนือโลก ก็ความรู้ในโลกยังหยั่งไม่ถึงน่ะสิ พอรู้ถึงที่สุด ก็ต้องบอกว่า
มันเป็น ทุกขัง ( สภาพที่ทนได้ยาก) อนิจจัง(ไม่เที่ยง) อนัตตา (ไม่ใช่ตัวใช่ตน)
คือมันว่างเปล่าน่ะ
จากคุณ : ประดู่ลาย - [ 19-11-2013 21.51.57 IP:110.77.232.181 ]
|
|
ความคิดเห็นที่ 5
คุณ Nangrai สนใจปฏิบัติอยู่เหรอคะ เล่าสู่กันฟังบ้าง
เป็นกำลังใจ เผื่อใครคล้ายๆ จะได้พูดคุยกันค่ะ

จากคุณ : ประดู่ลาย - [ 19-11-2013 22.14.11 IP:110.77.232.181 ]
|
|
ความคิดเห็นที่ 6
แล้วมาต่ออีกนะคะ 
จากคุณ : The - [ 20-11-2013 02.03.53 IP:171.100.59.72 ]
|
|
ความคิดเห็นที่ 7
อะ ๆ สนใจอยากรู้อยากเห็นค่ะ แต่จริง ๆ แล้ว ที่อ่านที่ฟังเพราะรู้ตัวว่าไม่เคยทำอะไรจริงจังยังเอาชนะใจตัวเองไม่ได้ เรื่องอย่างนี้ยาก สำหรับเราที่ยังเดินอยู่ในวงกลมนี้ ดังนั้นการได้อ่านหรือฟังเรื่องการปฏิบัติบ้าง คำสอนธรรมมะบ้าง ทำให้ใจสงบ แล้วก็จะกลับมามองตัวเราเองค่ะว่าเราได้ทำหรือยัง ทำไมไม่ทำ ที่สำคัญรู้สึกจะระมัดระวังความคิด ความเห็น การมอง มากขึ้น ยังไม่ถึงขั้นของคุณประดู่ลายที่ได้เคยปฏิบัติหรอกนะคะ เลยไม่มีเรื่องเล่าค่า
จากคุณ : Nangrai - [ 20-11-2013 22.32.05 IP:180.183.209.209 ]
|
|
ความคิดเห็นที่ 8
เบรก.....เอี๊ยดดด ก่อนค่ะ
ก่อนอื่น คุณต้องทำความเข้าใจกับเราประมาณนึงก่อนนะคะ
มีแต่คนบอกว่าเรารั้นมาก กว่าเราจะเข้าใจ คุณอาจจะเหนื่อยหนักหนาอยู่นะ
*******
ึความไม่เที่ยง จางคาย ดับไม่เหลือ สลัดคืน
ขันธ์ไม่มี เวทนาไม่มี อะไร ๆ ก็ไม่มี ทุกอย่างเกิดและดับ เกิดและดับ
เหตุเป็นแดนเกิด ถ้าเราไม่ยึด ปล่อยให้หมด ก็หมายความว่าเราไม่มีเหตุเป็นแดนเกิด
ตามหลักที่ พอ.อธิบายเรื่อง อาณาฯ ถึงได้ติดใจคำว่า ไตรลักษณ์ กับ นิพพานงัยค่ะ
เราอยากว่างที่สุด ถ้าจะมีอะไรมาให้เข้าใจ อยากให้มาเองโดยธรรมชาติ
ดังคำที่ว่า ธรรมะ คือ ธรรมชาติค่ะ
ตามหลักอาณาฯ แค่ตั้งมั่นกับการรู้ลม(กาย)
พอ.บอกว่า อาการจิตจะไหลไปของมันเองตามคลิปนะคะ
หากปัญญาจะเกิด ธรรมจะเกิด ก็อยากให้มาเองในขณะนั่งรู้ลมค่ะ
เพราะ...สิ่งที่หวังสำหรับการนั่งสมาธิ คือ นิพพาน และเรื่องลมหายใจสุดท้ายค่ะ
คือ...ถ้าเป็นไปได้
อยากให้คุณช่วยอธิบาย ตรงจุดนี้มากกว่าค่ะ ว่าเราเข้าใจผิดหรือเปล่า
มีบ้างมั้ยค่ะ จากที่คุณปฏิบัติมา แบบยึดมั่นอารมณ์เดียว แล้วอื่น ๆ จะมาเองหนะค่ะ ?
****
เอ่อ...อีกทู้ errer ไปล่ะ ที่พิมพ์ไว้ทู้นั้น ข้อความหาย ขึ้นแต่คลิปค่ะ
ตัดมาที่กระทู้นี้แล้วกันนะคะ
จากคุณ : The - [ 23-11-2013 09.14.27 IP:171.100.59.72 ]
|
|
|
Webmaster และผู้ดูแลจะลบกระทู้หรือข้อความในกระดาน ด้วยวิจารณญาณและเหตุผลหลักดังต่อไปนี้
ห้ามมีการกล่าวร้ายกัน ด่าทอ กล่าวหา ใส่ร้ายป้ายสี หรือให้ร้าย เพื่อเป็นการทำลายชื่อเสียงต่อบุคคลหรือองค์กรใดๆ
ห้ามมีการใช้คำหยาบคาย คำเสียดสี หรือคำที่มีความหมายไม่เหมาะสม ที่จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อสังคมนี้
สามารถร้องขอให้ลบกระทู้หรือคำตอบได้ โดยผู้ตั้งกระทู้หรือผู้ที่ถูกกล่าวถึงจนทำให้เสียหาย
ห้ามการโฆษณาซึ่งให้ประโยชน์ทางการค้ากับต่อเจ้าของสินค้าหรือสถานที่นั้น ไม่ว่ากรณีใด
ห้ามมีการก่อกวนหรือทำลายบรรยากาศที่ดีของเวบบอร์ดนี้ในทุกกรณี
ห้ามโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
contact us: 089-2189119 Email: webmaster@lesla.com
|